Red Lollipop

หน่วยที่4

1. ความหมายของซอฟแวร์
1.การที่เครื่องคอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดแวร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นเกิดจากคำสั่งหรือชุดคำสั่งหรือที่เรียกว่าโปรแกรมที่เขียนโดยนักเขียนโปรแกรม(programmer)คำสั่งมีลักษณะเป็นซอฟท์แวร์สามารถสั่งให้คอมพิวเตอร์อ่านข้อมูล แปลความหมาย และทำการประมวลผล แล้วส่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเป็นสารสนเทศตามที่เราต้องการ ซอฟต์แวร์  เป็นส่วนหนึ่งที่มนุษย์สัมผัสไม่ได้โดยตรงเพราะซอฟต์แวร์มีคุณลักษณะเป็นนามธรรมโดยทั่วไปเรียกว่าโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อสั่งการให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึงทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้ใช้คอมพิวเตอร์และเครื่องคอมพิวเตอร์ ถ้าไม่มีซอฟต์แวร์เราก็ไม่สามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำอะไรได้เลย ซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท ดังนี้
ซอฟต์แวร์ คือ การลำดับขั้นตอนการทำงานของคำสั่งที่จะทำหน้าที่สั่งคอมพิวเตอร์ว่าให้ทำอะไรเป็นชุดของโปรแกรมหลายๆโปรแกรมนำมารวมกันให้สามารถทำงานได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่ต้องการ และนำมาใช้งานหรือเผยแพร่ได้ด้วยสื่อหลายชนิด เช่น แผ่นบันทึก แผ่นวีดี แฟล็ชไดร์ฟ ฮาร์ดดิสก์  เป็นต้น
ซอฟต์แวร์  หมายถึง ชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึงเป็นคำสั่งที่มีลำดับขั้นตอนการทำงานวึ่งเขียนขึ้นด้วยคำสั่งของคอมพิวเตอร์ คำสั่งเหล่านี้เรียงกันเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จากที่ทราบมาแล้วว่าคอมพิวเตอร์ทำงานตามคำสั่ง การทำงานพื้นฐานเป็นเพียงการกระทำกับข้อมูลที่เป็นตัวเลขฐานสอง ซึ่งใช้แทนข้อมูลที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ หรือแม้แต่เสียงพูดก็ได้
ซอฟต์แวร์ คือ ชุดคำสั่งที่สั่งงานคอมพิวเตอร์อย่างเป็นลำดับขั้น ชุดคำสั่งเหล่านี้ได้จัดเตรียมไว้ในหน่วยความจำ คอมพิวเตอร์จะอ่านชุดคำสั่งแล้วทำงานตามโปรแกรมที่นักเขียนโปรแกรมได้เขียนเอาไว้ซอฟต์แวร์จึงเป็นสิ่งที่มนุษย์จัดทำขึ้นเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามลักษณะของซอฟต์แวร์ที่วางไว้แล้วเท่านั้น
2. ประเภทของซอฟต์แวร์
ในบรรดาซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีผู้พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานกับคอมพิวเตอร์มีมากมาย ซอฟต์แวร์เหล่านี้อาจได้รับการพัฒนาโดยผู้ใช้งานเอง หรือผู้พัฒนาระบบ หรือผู้ผลิตจำหน่ายหากแบ่งแยกชนิดของซอฟต์แวร์ตามสภาพการทำงาน โดยทั่งไปแล้วซอฟต์แวร์สามารถแบ่งได้ 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ
                  2.1 ซอฟต์แวร์ระบบ(System Softwar)
เป็นโปรแกรมที่บริษัทผู้ผลิตสร้างขึ้นมาเพื่อใช้กับการจัดการระบบ หน้าที่การทำงานของวอฟต์แวร์ระบบ คือ ดำเนินงานพื้นฐานต่างๆของระบบคอมพิวเตอร์ เช่น รับข้อมูลจากแผงป้อนอักขระแล้วแปลความหมายให้คอมพิมเตอร์เข้าใจ และนำข้อมูลไปแสดงบนจอภาพหรือนำออกไปยังเครื่องพิมพ์จัดการข้อมูลในระบบแฟ้มข้อมูลในระบบแฟ้มข้อมูลในหน่วยความจำรอง ซอฟต์แวร์ระบบจึงทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างฮาร์ดแวร์และโปรแกรมประยุกต์ ใช้ในการควบคุมดูแลการทำงานทั้งหมดของระบบคอมพิวเตอร์ ขณะที่เรากำลังใช้โปรแกรมประยุกต์อยู่ซอฟต์แวร์ระบบจะควบคุมการทำงานของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งซอฟต์แวร์ระบบมีลักษณะแตกต่างกันดังนี้
2.1.1 ระบบปฏิบัติการ(operating Software หรือ OS)
เป็นซอฟต์แวร์ที่ควบคุมกิจกรรมทั้งหมดของคอมพิวเตอร์ เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ที่เป็นอาร์ดแวร์ทุกส่วนของระบบคอมพิวเตอร์ทำงานด้วยกันได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
    ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลและทำแฟ้มข้อมูลภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น การทำสำเนาข้อมูล(copy)การเลียงลำดับ(sort)การลบ(delete)และอื่นๆ
    ระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้มากที่สุดในขณะนี้คือ
    1.ระบบปฏิบัติการดอส(DOS)เป็นระบบปฏิบัติการที่รับคำสั่งจากผู้ใช้งานเป็นข้อคาวม(text mode)DOS มาจากคำว่า Disk system อาจเป็นพีซีดอส(PS-DOS) หรือเอ็มเอสดอส(MS-DOS)ซึ่งพัฒนามาโดยบริษัทไมโครซอฟต์ก็ได้ ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมแล้ว
                            2.ระบบปฏิบัติการแบบวินโดวส์
พัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟต์ เป็นระบบปฏิบัติการทำงานที่ทำงานด้วยคำสั่งกราฟิกชนจอภาพโดยใช้เมาส์ในการควบคุมคำสั่งให้โปรแกรมทำงานผ่านภาพ กราฟิกที่เป็นสัญลักษณ์ต่างๆที่เรียกว่า สัญรูป หรือ ไอคอน(icon)เราเรียกว่าการทำงานแบบประสานกับผู้ใช้ในลักษณะกราฟิก GUI(graphical user interface)อ่านออกเสียงว่า กุย  ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ที่ได้พัฒนามามีใช้หลายแบบ เช่นวินโดวส์ 3.1 วินโดวส์ 95วินโดวส์2000  วินโดวส์มี(windows me)วินโดวส์เอ็นที(windows NT)เป็นต้น
 3.ระบบปฏิบัติการยูนิกส์(UNIX)
    เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้พัฒนามาเป็นเวลานานมากกว่าระบบดอส ระบบยูนิกส์มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง จึงนิยมใช้กับเครื่องที่ต้องการประสิทธิภาพการทำงานสูง เช่น เครื่องที่เป็นแม่ข่ายของระบบอินเทอร์เน็ต ระบบปฏิบัติการลินุกซ์สามารถใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้
    4.ระบบปฏิบัติการแมค(MAC OS)
    พัฒนาโดยบริษัทแอปเปิลคอมพิวเตอร์ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์แม็คอินทอช ทำงานแบบเดียวกับโปรแกรมวินโดวส์นิยมใช้งานประเภทการออกแบบกราฟิก
    2.1.2 ตัวแปลภาษา
    ในการพัฒนาซอฟต์แวร์จำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์ในการแปลภาษาระดับสูง เพื่อแปลภาษาระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่อง ภาษาระดับสูงมีหลายภาษา ภาษาระดับสูงเหล่านี้สร้างขึ้นเพื่อให้เขียนโปรแกรมเขียนชุดคำสั่งได้ง่าย เข้าใจได้ ตลอดจนถึงสามารถปรับปรุงแก้ไขซอฟต์ในภายหลังได้
    1.ภาษาปาสคาล เป็นภาษาสั่งงานคอมพิวเตอร์ที่มีรูปแบบเป็นโครงสร้าง เขียนสั่งงานคอมพิวเตอร์เป็นกระบวนความผู้เขียนสามารถบ่งแยกงานออกเป็นชิ้นเล็กๆแล้วมารวมกันเป็นโปรแกรมขนาดใหญ่ได้
    ภาษาระดับสูงที่พัฒนาขึ้นมาทุกภาษาจะต้องมีตัวแปลภาษาสำหรับแปลภาษาระดับสูงซึ่งเป็นที่รู้จักและนิยมกันมากในปัจจุบันก็มีหลายภาษาด้วยกัน เช่น
    2.ภาษาเบสิก  เป็นภาษาที่มีรูปแบบคำสั่งไม่ยุ่งยาก สามารถเรียนรู้และเข้าใจได้ง่ายมีรูปแบบคำสั่งพื้นฐานที่สามารถนำมาเขียนเรียงต่อกันเป็นโปรแกรมได้
    3.ภาษาซี เป็นภาษาที่เหมาะสำหรับการช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์อื่นๆภาษาซีเป็นภาษาที่มีโครงสร้างคล่องตัวสำหรับการเขียนโปรแกรมหรือให้คอมพิวเตอร์ติดต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ
    4.ภาษาโลโก เป็นภาษาที่เหมาะสำหรับการเรียนรู้และเข้าใจหลักการโปรแกรมภาษาโลโกได้รับการพัฒนาสำหรับเด็ก
นอกจากภาษาที่กล่าวถึงแล้วยังมีภาษาคอมพิวเตอร์ที่ ใช้กันในปัจจุบัน เช่น ภาษาฟอร์แทรน ภาษาโคบอล           ภาษาอาร์พีจี
    2.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์(Application Software)
    เป็นโปรแกรมที่ออกมาเพื่อการใช้งานเฉพาะเรื่องตามที่เราต้องการ เช่น งานพิมพ์เอกสาร งานพิมพ์รายงาน วาดภาพ เล่นเกม หรือโปรแกรมระบบบัญชี รายรับรายจ่ายและเงินเดือน
    2.2.1 ซอฟต์สำเสร็จ
    เป็นซอฟต์แวร์ที่มีความนิยมใช้กันสูงมาก ซอฟต์แวร์สำเสร็จเป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทพัฒนาขึ้นแล้วนำออกมาจำหน่ายเพื่อให้ผู้ใช้งานซื้อไปใช้ได้โดยตรงไม่ต้องเสียเวลาในการพัฒนาซอฟต์แวร์อีก
    ซอฟต์แวร์สำเสร็จที่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั่งไปที่เป็นที่นิยมของผู้ใช้มี 5 กลุ่มใหญ่ก้ได้แก่
1.ซอฟต์แวร์ประมวลคำ(word processing softwaqre)
2. ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน(spread sheet software)
3. ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล(data base  management software)
4.ซอฟต์แวร์นำเสนอ(presentation software)
5. ซอฟต์แวร์สื่อสารข้อมูล(data communication software)
    2.2.2 ซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะ
    เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่ช่วยในการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ในหน้าที่เฉพาะด้านบางอย่าง เช่น การตรวจหาและกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์ การจัดเรียงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น
    3. ความจำเป็นของการใช้ซอฟต์แวร์
    ซอฟต์แวร์ เป็นชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามต้องการสั่งงานตามลำดับขั้นตอนที่ผู้เขียนโปรแกรมเรียบเรียงไว้ในรูปของเลขฐานสองซึ่งใช้แทนข้อมูลที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ และเสียง และจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันการที่คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้มากมาย เพราะว่ามีการพัฒนาโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์เพื่อสั่งงานคอมพิวเตอร์ตามความต้องการของผู้ใช้งาน ดังที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน
    4. ซอฟต์แวร์และภาษาคอมพิวเตอร์
    คอมพิวเตอร์ทำงานในการจัดการสารสนเทศเรื่องต่างๆได้อย่างถูกต้องแม่นยำโดยการกำหนดวิธีการหรือขั้นตอนให้คอมพิวเตร์ทำงานได้ตามความต้องการจำเป็นต้องมีสื่อกลางที่ใช้ในการติดต่อซึ่งกันและกันระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ เราเรียนว่าภาษาคอมพิวเตอร์
    การใช้ภาษาเครื่องที่เป็นเลขฐานสองจะมีความยุ่งยากมากในการจดจำและทำความเข้าใจจึงมีผู้สร้างภาษาคอมพิวเตอร์ในรูปแบบที่เป็นอักษร เป็นประโยคข้อความเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ภาษาในลักษณะนี้เรียกว่า ภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูง
    โปรแกรมที่ใช้แปลภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่อง เรียกว่า คอมไพเลอร์(compiler)หรืออินเทอร์พรีเตอร์(interpreter)
    คอมไพเลอร์จะทำการแปลโปรแกรมที่เขียนเป็นภาษาระดับสูงทั้งโปรแกรมให้เป็นโปรแกรมให้เป็นภาษาเครื่องก่อนแล้วจึงให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามภาษาเครื่องนั้น
    คอมไพเลอร์กับอินเทอร์พรีเตอร์จึงอยู่ที่การแปลทั้งโปรแกรมหรือแปลทีละคำสั่ง ตัวแปลภาษาที่รู้จักกันดี เช่น ตัวแปลภาษาเบสิก ตัวแปลภาษาโคบอล เป็นต้น
     
     
     
     
     
     

     


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น